สารพันความรู้

วิถีเศรษฐกิจพอเพียงกับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน

วิถีเศรษฐกิจพอเพียงกับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน

วันนี้ขอนำหลักปรัชญาแห่งเศรษฐกิจพอเพียง มาบอกเล่าในรูปแบบที่คนขายของออนไลน์และผู้ที่ทำธุรกิจทั่วไปจะได้รับประโยชน์กัน

เมื่อพูดถึงเศรษฐกิจพอเพียง หลายคนคงนึกถึงภาพเรือกสวนไร่นา และอาชีพเกษตรกรรม แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลักปรัชญาแห่งเศรษฐกิจพอเพียงยังสามารถใช้ได้กับอีกหลายมิติการดำรงชีวิต รวมไปถึงผู้คนในสายอาชีพต่างๆ ด้วย โดยแนวคิดนี้สามารถสรุปออกมาได้ง่ายๆ เป็นแผนผังภาพ ดังนี้

วิถีเศรษฐกิจพอเพียงกับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน
วิถีเศรษฐกิจพอเพียงกับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน

ภาพนี้แสดงแนวทางปฏิบัติที่เรียกว่า “หลัก 3 ห่วง 2 เงื่อนไข” ค่ะ ซึ่งแผนภาพนี้เองที่ช่วยให้หลายๆ คนได้ประคองการดำรงชีวิตและการทำธุรกิจให้รอดพ้นวิกฤติเศรษฐกิจมาได้หลายครั้งแล้ว โดยแต่ละห่วงนั้นมีความหมาย ดังนี้

1. ความพอประมาณ  หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ
2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆ อย่างรอบคอบ
3. ภูมิคุ้มกัน หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต

หลัก 3 ห่วงในแบบคนทำธุรกิจ

หลักความพอประมาณ

– จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจได้รู้จักประเมินประมาณศักยภาพของตนเอง ถ้าเป็นตำราฝรั่งก็คงเรียกว่า SWOT ฯลฯ สิ่งนี้จะเป็นกระจกสะท้อนตัวตนเจ้าของกิจการได้เป็นอย่างดีว่าขณะนี้เราควรบุก หรือ ถอย โดยเกิดความเสี่ยงน้อยที่สุด

หลักความมีเหตุผล

 คือการรู้จักวิเคราะห์สภาพแวดล้อมรอบตัว สภาพตลาด รู้จักคิดถึงที่มาที่ไปก่อนการลงมือทำสิ่งต่างๆ ถ้าเป็นตำราฝรั่งก็คงเรียกว่า Five Forces, Positioning Map ฯลฯ เมื่อเรารู้จักวิเคราะห์ทั้งตนเอง และผลที่จะเกิดขึ้นกับสภาพแวดล้อมหลังจากที่เราได้ลงมือทำอะไรบางอย่างไป แผนที่เราวางไว้ ก็ยากที่จะทำให้ธุรกิจเกิดการล้มเหลวค่ะ

หลักภูมิคุ้มกัน

 การทำธุรกิจบนความไม่ประมาท คิดว่าสถานการณ์ต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เช่น เทรนด์ใหม่ๆ เครื่องมือใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การที่เราตระหนักถึงสิ่งนี้ ทำให้เราต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ และเมื่อเกิดอะไรขึ้นก็จะรู้สึกสบายใจกว่า เพราะมีการคาดการณ์ล่วงหน้าไว้แล้วนั่นเอง

จะเห็นได้ว่าทั้ง 3 ห่วงนี้ต้องปฏิบัติไปพร้อมๆ กันจะแยกออกจากกันไม่ได้ มิเช่นนั้นแล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันกับชีวิตหรือธุรกิจของเราขึ้น เราก็จะรับมือได้อย่างยากลำบาก

แล้วทำไมต้อง 2 เงื่อนไข

เคยสังเกตมั้ย กับบางคนที่ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่นานก็มีอันล้มเหลวไป นอกจากการขาดปัจจัย 3 ห่วงข้างบนแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นกับหลายคนมาแล้วก็เป็นเพราะกระทำโดยปราศจาก 2 เงื่อนไขนี้

1. เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังในการปฏิบัติ
2. เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต

บางคนขายได้ดีเพราะเกาะกระแสเก่ง แต่ขาดความรู้ในตัวสินค้าหรือเทรนด์สังคมในภาพใหญ่อย่างสิ้นเชิง หรือบางคนคิดจะตีตลาดนอกแต่ขาดความรู้เรื่องตลาดต่างประเทศที่เราจะไปตีอย่างทะลุปรุโปร่ง นี่เป็นที่มาของความล้มเหลว
หรือบางคนอาจจะเก่งกล้าสามารถ มีความรู้ดี แต่ขาดคุณธรรม ทำให้เครดิตทางการค้า การคบค้ากับมิตรภาพดีๆ เริ่มหายไป แบบนี้ก็ทำให้ธุรกิจและชีวิตพังได้อย่างช้าๆ แต่ทว่าในบั้นปลายนั้นน่ากลัวทีเดียว

สุดท้ายนี้คงจะดีไม่น้อยหากคุณผู้อ่านได้ลองศึกษาและนำไปใช้จริง โดยไม่ได้ยึดติดว่าเป็นเรื่องของชาวไร่ชาวนาอีกต่อไป เชื่อว่าแบบนี้เประเทศไทยของเราคงมีสุดยอดผู้ประกอบการเกิดขึ้นอีกมากมายเลย

ขอบคุณที่มา : sellsuki.co.th

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button