ปลูกพืชเทคนิคเกษตร
เตือนเกษตรกรระวัง โรคใบไหม้ ในมันสำปะหลัง
![เตือนเกษตรกรระวัง โรคใบไหม้ ในมันสำปะหลัง](https://xn--12cc0dik2d5ak9em9l6d.com/wp-content/uploads/2021/06/01-1-780x470.jpg)
![เตือนเกษตรกรระวัง โรคใบไหม้ ในมันสำปะหลัง](https://xn--12cc0dik2d5ak9em9l6d.com/wp-content/uploads/2021/06/01-1-780x470.jpg)
เตือนเกษตรกรระวัง โรคใบไหม้ ในมันสำปะหลัง
โรคใบไหม้ (เชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas axonopodis pv. manihotis) ในมันสำปะหลัง
![](https://xn--12cc0dik2d5ak9em9l6d.com/wp-content/uploads/2021/06/194618335_916272935607487_2260942666202487057_n.png)
![](https://xn--12cc0dik2d5ak9em9l6d.com/wp-content/uploads/2021/06/194618335_916272935607487_2260942666202487057_n.png)
สภาพอากาศในช่วงนี้อากาศร้อน มีฝนตก และฝนตกหนักบางพื้นที่ เตือนผู้ปลูกมันสำปะหลัง ในระยะ ทุกระยะการเจริญเติบโต รับมือโรคใบไหม้ (เชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas axonopodis pv. manihotis)เริ่มแรกใบแสดงอาการจุดเหลี่ยม ฉ่ำน้ำ ขนาดแผลถูกจำกัดด้วยเส้นใบ หากสภาพอากาศมีความชื้นสูงจะพบหยดน้ำสีขาวครีม (ooze) บริเวณแผลบนใบ ต่อมาแผลจะขยายติดกันอย่างรวดเร็ว เป็นแผลไหม้สีน้ำตาลขอบแผลมีสีเหลือง ทำให้เกิดอาการใบไหม้ ใบจะแห้งและร่วง ส่วนยอดที่แตกใหม่จะแสดงอาการเหี่ยว มียางไหล และมีอาการยอดไหม้แห้งตายจากส่วนยอดลงมาลำต้นอย่างรวดเร็ว ลักษณะอาการที่ลำต้นพบจุดชํ้าเล็ก ๆ เมื่อแผลขยายจะเปลี่ยนเป็นสีนํ้าตาลเข้มลุกลามเป็นแผลใหญ่ บางครั้งพบอาการยางไหลบนส่วนลำต้นที่ยังอ่อนหรือก้านใบ ลำต้นจะเปราะ หักง่าย แบคทีเรียจะอาศัยอยู่ในระบบท่อลำเลียงน้ำและอาหาร เมื่อผ่าลำต้นและรากดูจะพบบริเวณท่อลำเลียงน้ำและอาหารมีสีคล้ำ เนื่องจากเนื้อเยื่อถูกทำลาย
![](https://xn--12cc0dik2d5ak9em9l6d.com/wp-content/uploads/2021/06/195670970_916273085607472_7940007289709694518_n.png)
![](https://xn--12cc0dik2d5ak9em9l6d.com/wp-content/uploads/2021/06/195670970_916273085607472_7940007289709694518_n.png)
**** โรคนี้มักพบระบาดรุนแรงและรวดเร็วในช่วงฝนตกชุกติดต่อกันและความชื้นสูง
แนวทางป้องกัน/แก้ไข
1. ปลูกพันธุ์ทนทานต่อโรค หรือพันธุ์ที่ทนทานต่อโรคปานกลาง เช่น ระยอง 90 และระยอง 9
2. ใช้ท่อนพันธุ์สะอาดปลอดโรค หรือหลีกเลี่ยงการใช้ท่อนพันธุ์ส่วนโคนลำต้นหรือโคนกิ่งมันสำปะหลัง
3. หมั่นตรวจแปลงปลูก หากพบอาการโรค เก็บส่วนต้นและใบที่เป็นโรค นำไปทำลายนอกแปลงปลูก
4. ในแหล่งที่มีโรคระบาดรุนแรง ให้ปลูกพืชหมุนเวียน เช่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง หรือพืชตระกูลถั่ว เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน
![](https://xn--12cc0dik2d5ak9em9l6d.com/wp-content/uploads/2021/06/195376911_916273338940780_793950471945996498_n.png)
![](https://xn--12cc0dik2d5ak9em9l6d.com/wp-content/uploads/2021/06/195376911_916273338940780_793950471945996498_n.png)
ขอบคุณที่มา : facebook เพจ สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร