สารพันความรู้เทคนิคเกษตร

เคล็ดลับ !! ปลูกข้าวโพดหวาน สร้างรายได้ตลอดทั้งปี

เคล็ดลับ !! ปลูกข้าวโพดหวาน สร้างรายได้ตลอดทั้งปี

วิธีปลูกข้าวโพดหวาน

วิธีปลูกข้าวโพดหวาน
วิธีปลูกข้าวโพดหวาน

ฤดูกาลปลูกที่เหมาะสม

-ปลูกได้ตลอดทั้งปี ถ้ามีแหล่งน้ำเพียงพอสำหรับใช้เมื่อจำเป็น

-ช่วงปลูกที่ให้ผลผลิตสูงมีคุณภาพดี ควรอยู่ในฤดูหนาวระหว่างเดือน ตุลาคม – มกราคม หรือดินฤดูฝน เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม

การวิเคราะห์ดินก่อนปลูก

ถ้าดินมีความเป็นกรดด่างต่ำกว่า 5.5 ให้ใส่ปูนขาวอัตรา 100 – 200 กิโลกรัมต่อไร่ แล้ว ไถพรวนดิน และถ้าดินมีอินทรียวัตถุต่ำกว่า 1.5

ก่อนพรวนดินให้ใส่ปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายดีแล้วอัตรา 500 – 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ หรือปลูกถั่วเขียวอัตรา 5 กิโลกรัม/ไร่ หรือปลูกถั่วพร้าอัตรา 8-10 กิโลกรัมต่อไร่ หรือหลังเก็บผักข้าวโพดหวานแล้วไถกลบต้นข้าวโพด เพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน

การเตรียมดิน

          การเตรียมดินถือเป็นหัวใจของการปลูกข้าวโพดหวานให้ได้ผลผลิตสูง เพราะถ้าดินมีสภาพดีเหมาะกับการงอกของเมล็ดจะทำให้มีจำนวนต้นต่อไร่สูง ผลผลิตต่อไร่ก็จะสูงตามไปด้วยการเตรียมดินที่ดีควรมีการไถดะและทิ้งตากดินไว้ 3-5 วัน

จากนั้นจึงไถแปรเพื่อย่อยดินให้ แตกละเอียดไม่เป็นก้อนใหญ่เหมาะกับการงอกของเมล็ด ควรมีการหว่านปุ๋ยคอกเช่นปุ๋ยขี้ไก่เป็นต้น อัตราประมาณ 1 ตันต่อไร่ก่อนการไถแปร เพื่อเป็นการปรับปรุงโครงสร้างของดินให้ดีขึ้นสามารถอุ้มน้ำได้นานขึ้น และยังเป็นการเพิ่มธาตุอาหารให้กับข้าวโพดหวาน

วิธีปลูกข้าวโพดหวาน
วิธีปลูกข้าวโพดหวาน

วิธีทำปุ๋ยใช้เอง

1.ปุ๋ยหมักสูตร 16-16-16 และปุ๋ยหมักชีวภาพสูตร 15-15-15

วัตถุดิบต่อส่วนผสม

รำอ่อน 1 ส่วน

ดินดี 1 ส่วน

แกลบดิบ 1 ส่วน

แกลบดำ 1 ส่วน

มูลสัตว์ 1 ส่วน

พืชตระกูลถั่ว 1 ส่วน

2. ปุ๋ยหมักสูตร 16-20-0

วัตถุดิบต่อส่วนผสม

รำอ่อน 1 ส่วน

ดินดี 2 ส่วน

แกลบดิบ 4 ส่วน

แกลบดำ 4 ส่วน

มูลสัตว์ 4 ส่วน

พืชตระกูลถั่ว 4 ส่วน

ขั้นตอนและวิธีการทำปุ๋ยหมัก

1.นำส่วนผสมทั้งหมด(ยกเว้นรำอ่อนให้ใส่หลังสุด) นำมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน

2.เกลี่ยส่วนผสมออกเป็นวงกลมแล้วนำน้ำหมักที่ผสมไว้แล้วราดลงไปให้ทั่วกองปุ๋ยโดยให้เปียกพอประมาณ ความชื้นประมาณ 60%

โดยอัตราส่วนในการผสมน้ำหมักชีวภาพ นำกากน้ำตาล 2 ช้อนแกงลงผสมกับน้ำหมัก 2-8 ช้อน แล้วเติมน้ำ 20 ลิตรคนให้เข้ากันนำใส่บัวรดน้ำรดกองปุ๋ย

ข้อแนะนำและควรปฏิบัติ

1.ในการผสมปุ๋ยและเก็บปุ๋ยควรทำในร่มหรือในโรงเรือน

2.ในระยะ 7 วันแรกปุ๋ยจะมีความร้อนสูง ควรพลิกกลับปุ๋ยทุกวันในระยะ 2-7 วันแรก

3.การเก็บปุ๋ยไม่ควรซ้อนกันเกิน 5 ชั้น

4.หลังจากปุ๋ยคลายความร้อนแล้วนำไปใช้งานได้

5.น้ำที่ใช้ผสมกับกากน้ำตาลหรือน้ำหมักให้ใช้น้ำซาวข้าวแทนได้จะทำให้ปุ๋ยมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การผลิตปุ๋ยหมักสูตร“โบโบชิ”เทียบเคียงปุ๋ยเคมี 46-0-0

วัสดุสำหรับการผลิตปุ๋ยสูตรเทียบเคียงปุ๋ย 46-0-0(โบโบชิ)

– รำ 1 กระสอบ

– แกลบดิบ 1 กระสอบ

– มูลไก่ 1 กระสอบ

– ขี้ค้างคาว 6 กิโลกรัม

– น้ำหมักชีวภาพ พด.2 หรือ EM

– กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทราย

วิธีการทำ

– ผสมรำ แกลบดิบ มูลไก่ ขี้ค้างคาว คนให้เข้าด้วยกันกองบนพื้นราบ

– ใช้น้ำหมักชีวภาพ พด. 2 ถ้าไม่มีให้ใช้ EM พร้อมกับใช้กากน้ำตาลรดบนกองขณะผสมวัสดุทำปุ๋ยให้ได้ความชื้นที่ 60 % วัดความชื้นที่เหมาะสมได้จากการกำวัสดุที่ผสมแล้วให้แน่นแล้วปล่อยให้อยู่ในอุ้งมือ ถ้าความชื้น 60 % จะติดกันเป็นก้อนไม่แตกออกจากกัน

– ตักปุ๋ยที่ได้บรรจุใส่ในกระสอบฟาง อย่าใส่จนเต็มกระสอบ จากนั้นมัดปากกระสอบ เก็บเข้าไว้ในที่ร่ม หมั่นกลับกระสอบทุกวัน โดยวันแรกวางกระสอบไว้แนวนอน

– จากนั้นกลับกระสอบไปมาวันละ 1 ครั้งจนครบ 7 วัน ในวันที่ 7 ให้วางกระสอบในแนวตั้งจากนั้นเปิดปากกระสอบระบายความร้อนทิ้งไว้อีก 1 คืน จะได้ปุ๋ยหมักโบโบชิสามารถนำไปใช้ได้

วิธีการนำไปใช้

– ใช้หว่านบนแปลงปลูกพืช ในอัตรา 1 กิโลกรัม ต่อ 1 ตารางเมตรแทนการใช้ปุ๋ยสูตร 46-0-0

วิธีทำหัวเชื้อจุลินทรีย์อีเอ็ม (EM.) สูตรเร่งรัด

อุปกรณ์

– น้ำมะพร้าว 5 – 6 ลูก

– กากน้ำตาล 2 กิโลกรัม หรือน้ำตาลทรายแดง ห้ามไช้น้ำตาลทรายฟอกขาวเด็ดขาด

– สับปะรด 2 ลูก (ถ้าเป็นลูกแก่มากๆ ได้จะยิ่งดี)

– ถังพลาสติก ที่มีฝาปิด 1 ใบ

วิธีทำ

1 หั่นสับปะรดทั้งลูก ทั้งเปลือกและเนื้อ เป็นชิ้นเล็ก ๆ จะได้จุลินทรีย์เร็วขึ้น

2 ปอกมะพร้าวอ่อนผ่าเอาแต่น้ำมะพร้าว 4 – 5 ลูก นำส่วนผสม น้ำมะพร้าว สับปะรด และกากน้ำตาล มาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่ถังพลาสติกปิดฝาทิ้งไว้ในที่ร่ม (ให้คนกลับไปกลับมาในถัง ทุก 2-3 วันต่อครั่ง) ประมาณ 1 -2 เดือน จะได้หัวเชื้อจุลินทรีย์อีเอ็มที่มีสีน้ำตาล กลิ่นหอมๆ ไว้ใช้ประโยชน์ต่อไป หรือ กรอกใส่ขวดน้ำอัดลมเก็บไว้ได้นานๆ แต่หามโดนแสงแดดเก็บไว้ในที่ร่ม เพราะ เดียวจุลินทรีย์ตายหมด

น้ำหมักหน่อไม้ป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช

น้ำหมักหน่อไม้ 1 ลิตร ผสม้ำ 10 ลิตร ฉีด ข้าวโพดหวาน โดยฉีดพ่นทุก 2-3 วัน ติดต่อกัน 3 ครั้ง รับรองไม่มีแมลงศัตรูมารบกวนทำลายผลผลิต ทั้งประหยัต้นทุนและปลอดภัยต่อตัวเองและผู้บริโภค

วิธีปลูกข้าวโพดหวาน
วิธีปลูกข้าวโพดหวาน

อ้างอิงข้อมูลจาก สถาบันองค์ความรู้ เกษตรอินทรีย์วิทยาลัยชุมชน

ขอบคุณที่มา : รักปลูก

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button