ข่าวสาร

รมว.ต่างประเทศ จ่อชงอาเซียนซัมมิท เปิดตัวคลังสำรองอุปกรณ์ทางการแพทย์ รับมือโควิด-19 พร้อมหนุน MSMEs ฟื้นศก.ภูมิภาค

รมว.ต่างประเทศ จ่อชงอาเซียนซัมมิท เปิดตัวคลังสำรองอุปกรณ์ทางการแพทย์ รับมือโควิด-19 พร้อมหนุน MSMEs ฟื้นศก.ภูมิภาค

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมการประชุมอาเซียน 3 กรอบการประชุม ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน การประชุมคณะมนตรีประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ครั้งที่ 22 และการประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียน ครั้งที่ 28 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 37 และการประชุมสุดยอด ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 15 พฤศจิกายน 2563

โดยในทุกการประชุม ไทยได้เน้นย้ำความร่วมมือในการรับมือและการฟื้นฟูหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมเรื่องการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ MSMEs (Micro, Small and Medium-sized Enterprises) ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในทุกประเทศของอาเซียนได้ รวมไปถึงการเดินทางเพื่อธุรกิจ (Essential Business Travel) จะทำให้การค้าการลงทุนระหว่างกันมีมากขึ้น ภายใต้บริบทที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก

ในโอกาสนี้ ที่ประชุมยังได้หารือเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 37 และการประชุมสุอดยอดที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมจะได้เสนอให้ที่ประชุมสุดยอดฯ มอบหมายให้คณะมนตรีประสานงานติดตามการดำเนินงานของกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ และเสนอให้เปิดตัวคลังสำรองอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข (ASEAN Regional Reserve of Medical Supplies (RRMS) for Public Health Emergencies) ด้วย

น.ส.อุศณา พีรานนท์ อธิบดีกรมอาเซียน กล่าวเพิ่มเติมถึงความร่วมมือ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านกลไกด้านสาธารณสุขของอาเซียน ตั้งแต่การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ การสนับสนุนด้านอุปกรณ์ และการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรด้านสาธารณสุข รวมไปถึงการจัดตั้งกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19 (COVID-19 ASEAN Response Fund) ที่ ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ เสนอจัดตั้ง เมื่อเดือน เมษายน ที่ผ่านมา หลังพิจารณาว่า อาเซียนมีกองทุนความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาเป็นรายประเทศ และกองทุนความร่วมมือกับอาเซียนบวกสาม สามารถปันเงินจากแต่ละกองทุนมารวมกันเป็นกองทุนของอาเซียนเพื่อใช้ตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 เป็นการเฉพาะ เพื่อจะได้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภูมิภาค

โดยหลายประเทศให้การสนับสนุนกองทุนนี้ รวมถึงรัฐบาลไทยที่บริจาคเงินสมทบ 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำเงินมาใช้ดำเนินงานในหลากหลายรูปแบบ เช่น การนำระบบโลจิสติกส์ฉุกเฉินสำหรับใช้ในกรณีเกิดภัยพิบัติของอาเซียน หรือ DELSA มาใช้เป็นคลังเก็บยา และอุปกรณ์ทางการแพทย์ในการจัดตั้งคลังยา เวชภัณฑ์ สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย ตลอดจน จะนำไปศึกษาค้นคว้ายารักษาและวัคซีนต้านโควิด-19 อีกด้วย

ขอบคุณที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button