“จุรินทร์” เผยคาดประกันรายได้ “ข้าว-ยางพารา”เข้า ครม. สัญจรสัปดาห์หน้า
“จุรินทร์” เผยประกันรายได้ “ข้าว-ยางพารา” ลงนามเสนอ ครม.แล้ว รอความเห็นกระทรวงการคลัง คาดนำเข้า ครม. สัญจรภูเก็ตสัปดาห์หน้า
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องโครงการประกันรายได้เกษตรกร ว่าขณะนี้ ครม. ได้มีมติให้ความเห็นชอบไปแล้ว 3 ตัวจากที่เรามีทั้งหมด 5 ตัว และตามนโยบายรัฐบาล คือ ข้าว ยางพารา มันสัมปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่ง ครม.มีมติไปแล้ว 3 เรื่องคือ ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยังขาดข้าวกับยางพารา ซึ่งตนได้ลงนามเสนอที่ประชุม ครม.ไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ว่าขณะนี้ที่ยังไม่สามารถพิจารณาได้เพราะต้องรอความเห็นจากกระทรวงการคลัง เชื่อว่าใช้เวลาอีกไม่นานและคาดว่าสัปดาห์หน้าน่าจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมครม.สัญจรที่ จ.ภูเก็ต
“สำหรับยางพาราขณะนี้ดีขึ้นมาก ตรวจสอบราคาล่าสุดที่ตลาดกลาง วันนี้ราคายางแผ่นรมควันราคาก็ไปถึง 80 กว่าบาทแล้วและน้ำยางข้นก็แตะไปถึง 70 บาทแล้วซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ดีเกษตรกรก็น่าจะพอใจขึ้น ขณะเดียวกันสาเหตุก็เนื่องมาจากความต้องการของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นและความต้องการของตลาดรถยนต์ที่เริ่มขยายตัวมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ความต้องการยางรถยนต์มีความต้องการเพิ่มขึ้นรวมทั้งสถานการณ์โควิดที่ทำให้ความต้องการใช้ถุงมือยางมากขึ้น เพราะฉะนั้นความต้องการใช้น้ำยางดิบไปผลิตก็มีมากขึ้นที่สำคัญก็คือมาตรการที่ถูกต้องชัดเจนของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาในการไปเปิดตลาดยางในประเทศต่างๆ ขณะนี้กำลังเร่งรัดการส่งมอบ และการทำสัญญาเพิ่มเติมก็ช่วยให้ความต้องการที่จะเข้ามาซื้อยางพาราเพื่อส่งออกมีเพิ่มมากขึ้นด้วย ทั้งหมดนี้หลายปัจจัยช่วยทำให้ราคายางในประเทศดีขึ้น อย่างไรก็ตามถ้าถึงเวลาหนึ่งเกิดราคาตกลงมารัฐบาลก็ยังมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางที่จะเป็นตัวช่วยประกันรายได้ว่าอย่างน้อยยางแผ่นดิบก็จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 60 บาท “ นายจุรินทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการประกันรายได้สินค้าเกษตรปี 2 ได้ผ่าน ครม.ไปแล้ว 3 ชนิดคือ การประกันรายได้ข้าวโพด ปาล์ม และมันสำปะหลัง แต่ยังค้างข้าวและยางพารา โดยข้าวนั้นคณะกรรมการ นบข.เห็นชอบเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. และ 17 ก.ค. 2563 จากนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ได้ลงนามเสนอ ครม.วันที่ 21 ส.ค. 2563 วงเงิน 23,495 ล้านบาท ส่วนยางพารา บอร์ด กนย. เห็นชอบเมื่อ 1 มิถุนายน 2563 จากนั้นนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรลงนามเสนอคณะรัฐมนตรีเมื่อ 14 กันยายน 2563 วงเงิน 28,847 ล้านบาท ล่าสุดปรากฏว่ายังรอความเห็นจาก นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ซึ่งเป็นขั้นตอนก่อนบรรจฺวาระเข้า ครม. โดยเรื่องนี้ท่านจุรินทร์ ได้ผลักดันอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ได้เร่งรัดทางกระทรวงคลังให้ส่งความเห็นทั้งนี้เพื่อเป็นไปตามขั้นตอนและให้ทำความเดือดร้อนของเกษตรกร ชาวนา ชาวสวนยางพารา เนื่องจากโครงการนี้เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลและเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา
ขอบคุณที่มา : newtv.co.th
